Chitika

11 กุมภาพันธ์ 2561

ปรับแต่งและซ่อมบำรุงครื่องตัดหญ้าจีนรุ่น 411

เครื่องตัดหญ้าที่ใช้งานอยู่ประจำเป็นเครื่องตัดหญ้าจีนรุ่น 411 เป็นเครื่องสองจังหวะ ซื้อมาในราคา 2300 บาท ใช้ลุยงานหนักได้สบายมาก ตั้งแต่ซื้อมาใช้งานไม่เคยเสียค่าแรงให้ช่างเลยแม้แต่บาทเดียวเพราะทำการปรับแต่งด้วยตัวเอง, และซ่อมบำรุงด้วยตัวเอง

ทำการปรับแต่งเพื่อให้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ได้โดยเปลี่ยนสายน้ำมันเป็นแบบที่ทนแก๊สโซฮอล์ได้ (ใช้สายน้ำมันรถยนต์), เปลี่ยนปะเก็นอ่างคาร์บิวเป็นแบบที่ทนแก๊สโซฮอล์ได้ (ปะเก็นกระดาษ), และเปลี่ยนซีลข้อเหวี่ยงเป็นเกรดอย่างดี

และนอกจากนี้ได้ทำการปรับแต่งเพื่อให้ประหยัดน้ำมันโดยขยับพินล๊อกที่เข็มน้ำมันขึ้นไปอีกหนึ่งขีด, และปรับสกรูเดินเบาที่คาร์บิวไปทางขวาประมาณ 1/4 รอบ ผลจากการปรับแต่งน่าพอใจมากเติมน้ำมันครั้งละ 0.4 ลิตร (400 ซีซี) ตัดกันจนเบื่อ

เนื่องจากเครื่องผมใช้คาร์บิวเกรดอย่างดี, และใช้คอยล์ไฟเกรดอย่างดีเครื่องจึงสตาร์ทติดง่ายการใช้งานแทบจะไม่มีปัญหาเลย การซ่อมบำรุงทำเพียงขันกวดน๊อตตามจุดต่างๆให้แน่น, ถ่ายน้ำมันออกจากอ่างคาร์บิวให้หมดหลังเลิกใช้งาน, อัดจารบีหัวเกียร์เป็นครั้งคราว, ล้างคาร์บิวเป็นครั้งคราว

วิธีการเดียวกันนี้สามารถประยุกต์ใช้กับเครื่องตัดหญ้ารุ่นอื่นๆได้เช่น Robin NB411, Robin EC04-EA, Makita RBC411 เป็นต้น

ใครคิดว่าห้าวพอและอยากจะโอรด เชิญเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่แหล่งข้อมูลต่อไปนี้ครับ:
http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?PHPSESSID=488t120cdettb2q5los32tles5&topic=16986.0
http://tavidmachining.blogspot.com/2012/12/e10.html?view=classic
http://tavidmachining.blogspot.com/2013/01/411.html?view=classic
http://tavidmachining.blogspot.com/2012/12/2.html?view=classic
http://tavidmachining.blogspot.com/2012/12/blog-post.html?view=classic
http://tavidmachining.blogspot.com/2012/07/32.html?view=classic
https://www.bansuanporpeang.com/node/23501
https://www.youtube.com/user/narinsroymano/videos

สัญญาอนุญาต: ซีซี: แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
License: CC: BY-NC-SA

Labels:brush cutter

23 มกราคม 2561

กดจุดแก้ปวดเสียดท้อง

ปี 2560 ที่ผ่านมาไม่เคยเจ็บป่วยจนต้องไปพบแพทย์หรือต้องกินยาทั้งยาแผนปัจจุบันและยาสมุนไพรเลยแม้แต่ครั้งเดียว ที่ป่วยหนักสุดคือปวดเสียดท้องอย่างรุนแรงแต่ใช้วิธีการรักษาโดยการกดจุดเน่ยกวานทั้งสองข้าง, และจู๋ซานหลีทั้งสองข้าง

โดยผมกดแต่ละจุดประมาณ 1 นาที (นับหนึ่งถึงร้อย) วนไปเรื่อยๆ จนอาการทุเลา

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลต่อไปนี้ครับ:
https://www.doctor.or.th/article/detail/6598

สัญญาอนุญาต: ซีซี: แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
License: CC: BY-NC-SA

Labels: กดจุด, แพทย์ทางเลือก, จุกแน่นท้อง, จุกเสียด, แน่นท้อง, acupressure, alternative medicine, colic, abdominal colic

14 มกราคม 2561

โอรดได้ เพราะทำได้และทำเป็น

ปี 2560 ที่ผ่านมาทำอะไรสำเร็จหลายอย่าง ขอโม้เสียหน่อย

1. ลดน้ำหนักตัวจนเหลือประมาณ 64 กิโลกรัม (ดัชนีมวลกาย 23) จากน้ำหนักก่อนลดประมาณ 68 กิโลกรัม เป้าหมายต่อไปคือออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

2. ไม่ใช้ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เพื่อหุงต้มอาหารเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ใช้เตาชีวมวลแทน

3. ไม่ใช้ไฟฟ้าเพื่อหุงต้มอาหารเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ใช้เตาชีวมวลแทน

4. ไม่ต้มน้ำร้อนโดยใช้ไฟฟ้าหรือก๊าซหุงต้มเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ใช้เตาชีวมวลแทน

5. ซ่อมเครื่องตัดหญ้าจีนรุ่น 411 และรุ่นใกล้เคียงเช่น Robin NB411, Robin EC04-EA, Makita RBC411 ได้เอง เป้าหมายต่อไปคือหัดซ่อมเครื่องยนต์เล็กชนิดอื่นๆ

6. ไม่เจ็บป่วยจนต้องไปพบแพทย์หรือต้องกินยาทั้งยาแผนปัจจุบันและยาสมุนไพรเลยแม้แต่ครั้งเดียว ที่ป่วยหนักสุดคือปวดเสียดท้องอย่างรุนแรงแต่ใช้วิธีการรักษาโดยการกดจุดแทน

7. ประกอบเครื่องปั่นไฟขนาดเล็กใช้เอง ดีกว่าของที่วางขายทั่วไปตามท้องตลาดคือขนาดเล็กกว่า, น้ำหนักเบากว่า, และประหยัดน้ำมันกว่า

8. ทำหัวเชื้ออีเอ็ม (หัวเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ) ใช้เอง

9. ไม่ซื้อน้ำดื่มที่ขายเป็นถังๆละ 20 ลิตรใช้เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่กรองน้ำไว้ใช้เองโดยใช้เครื่องกรอง RO น้ำที่กรองได้มีค่า TDS ประมาณ 10 ซึ่งผ่านมาตรฐาน

Labels: โอ้รด, ลดน้ำหนัก, ลดความอ้วน, ดัชนีมวลกาย, บีเอ็มไอ, เตาฟืนไฮโซ, obesity, overweight, lose weight, diet, BMI, gasifier stove, LPG, small electric generator, EM, effective microorganisms, homemade, drinking water, acupressure

20 มกราคม 2560

ลดความอ้วนง่ายๆด้วยน้ำเปล่าและนมถั่วเหลือง

ผู้เขียนใช้วิธีนี้น้ำหนักลดจาก 79 กิโลกรัม เหลือ 68 กิโลกรัม ผู้เขียนสูง 167 เซนติเมตร เมื่อคำนวณหาค่าดัชนีมวลกาย (Body mass index, BMI) ซึ่งเป็นค่าที่ใช้ชี้วัดว่าอ้วนหรือไม่ ก็จะลดจาก 28.3 เหลือ 24.4 คือจากที่เคยอ้วนก็กลับมามีน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติ

ค่าดัชนีมวลกายสามารถคำนวณได้ง่ายมากคือเอาน้ำหนักหน่วยเป็นกิโลกรัมคูณด้วย 10000 แล้วหารด้วยส่วนสูงที่มีหน่วยเป็นเซนติเมตรสองครั้ง ตัวอย่างของผู้เขียนคือ 79x10000/(167x167)= 28.3265803722 เมื่อปัดให้เหลือทศนิยมหนึ่งตำแหน่งก็จะได้ค่าเป็น 28.3

ค่าดัชนีมวลกายของคนที่มีน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติควรมีค่าอยู่ตั้งแต่ 18.5 ถึง 24.9 ถ้าค่าน้อยกว่า 18.5 ถือว่าน้ำหนักตัวน้อยเกินไปหรือผอม ส่วนถ้าค่ามากกว่า 24.9 ถือว่าน้ำหนักตัวมากเกินไปหรืออ้วน

รายละเอียดการการควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนักทำได้ง่ายๆดังนี้
มื้อเช้า: ให้ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว (ประมาณ 250-300 ซีซี) แล้วกินอาหารตามปกติแต่เอาแค่พออิ่ม ตัวอย่างเมนูอาหารเช้าสำหรับผู้เขียน
    ขนมจีบ 8 ชิ้น + เต้าหู้ปลาติ๋มซำ 8 ชิ้น + น้ำเปล่าอีกเล็กน้อยประมาณ 100 ซีซี แค่นี้ก็พออิ่มแล้ว
    ขนมจีบ 8 ชิ้น + ซาลาเปาลูกขนาดกลาง 4 ลูก + น้ำเปล่าอีกเล็กน้อยประมาณ 100 ซีซี แค่นี้ก็พออิ่มแล้ว
    ขนมจีบ 8 ชิ้น + ไข่ต้ม 2 ฟอง + น้ำเปล่าอีกเล็กน้อยประมาณ 100 ซีซี แค่นี้ก็พออิ่มแล้ว
    ข้าวต้มมัด 3 ห่อ + น้ำเปล่าอีกเล็กน้อยประมาณ 100 ซีซี แค่นี้ก็พออิ่มแล้ว
    ขนมคุกกี้ 5 ชิ้น (ประมาณ 60 กรัม) + น้ำเปล่าอีกเล็กน้อยประมาณ 100 ซีซี แค่นี้ก็พออิ่มแล้ว
มื้อเที่ยง: ให้ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว (ประมาณ 250-300 ซีซี) แล้วกินอาหารได้ตามปกติ
มื้อเย็น: ให้ดื่มนมถั่วเหลืองหรือน้ำเต้าหู้ประมาณ 500-600 ซีซี แล้วดื่มน้ำเปล่าอีกเล็กน้อยประมาณ 100 ซีซี สำหรับช่วงแรกๆถ้ามื้อเย็นยังหิวจัดอยู่อาจกินอย่างอื่นเสริมเช่น ผลไม้, น้ำผลไม้, หรือไข่ต้ม เป็นต้น

อาจจะสลับรูปแบบการกินระหว่างมื้อเช้ากับมื้อเที่ยงให้เหมาะสมกับรูปแบบการใชัชีวิต เช่น ถ้ามื้อเช้ากินตามปกติก็ให้กินมื้อเที่ยงแค่พออิ่ม

สัญญาอนุญาต: ซีซี: แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
License: CC: BY-NC-SA

Labels: ลดน้ำหนัก, ลดความอ้วน, น้ำเปล่า, นมถั่วเหลือง, น้ำเต้าหู้, แลคตาซอย, ไวตามิลค์, ดอยคำ, ดัชนีมวลกาย, บีเอ็มไอ, obesity, overweight, lose weight, diet, plain water, soy milk, soya milk, soybean milk, soymilk, BMI

06 มกราคม 2558

ซ่อมไฟเลี้ยวและไฟฉุกเฉินรถยนต์

รถยนต์ Isuzu Dragon Eye คู่ทุกข์คู่ยากเมื่อเปิดไฟเลี้ยวหรือไฟฉุกเฉินตอนเช้าจะไม่ทำงานเลย (ไฟเลี้ยวไม่ติด, ไฟหน้าปัดไม่ติด, ไม่ได้ยินเสียงรีเลย์ทำงาน) สักครู่ไฟเลี้ยวจะติดค้างแต่ไม่มีการกะพริบ ทิ้งไว้อีกสักครู่ใหญ่ๆก็จะกลับมาทำงานปกติ (ไฟเลี้ยวติด, ไฟหน้าปัดติด, ได้ยินเสียงรีเลย์ทำงาน) ลองหาข้อมูลในเน็ตแล้วน่าจะเป็นที่รีเลย์ไฟเลี้ยวเสีย ไปให้ร้านไดนาโมร้านแรกดูก็บอกว่าน่าจะเป็นที่รีเลย์ไฟเลี้ยวเสียค่าซ่อมรวมค่าอะไหล่แท้ของใหม่และค่าแรง 650 บาท แต่ถ้าเป็นอะไหล่แท้ของมือสองและค่าแรงจะคิด 380 บาท ผมยังไม่ซ่อมแต่ลองไปถามร้านไดนาโมร้านที่สองดูก็บอกว่าน่าจะเป็นที่รีเลย์ไฟเลี้ยวเสียค่าซ่อมรวมค่าอะไหล่เทียมของใหม่และค่าแรง 250 บาท ผมยังไม่ซ่อมแต่ลองไปถามราคาที่ศูนย์รถยนต์ยี่ห้อนี้ดูพบว่าอะไหล่ตัวนี้ราคาอยู่ที่ตัวละ 535 บาท ผมจึงตัดสินใจซื้อมาเปลี่ยนเอง

สำหรับรถรุ่นนี้รีเลย์ไฟเลี้ยวจะอยู่ในห้องโดยสารหลังกล่องฟิวส์ ถอดขั้วไฟออกแล้วเอามือดันรีเลย์ออกจากที่ยึด แล้วใส่ตัวใหม่เข้าไปแทนเสร็จแล้วต่อขั้วไฟกลับ แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ

จริงๆ ถ้าจะใช้ของเทียมก็ไม่น่าจะมีปัญหา ถ้าซื้อตามร้านอะไหล่ใหญ่ๆราคาน่าจะต่ำกว่า 200 บาท หรืออาจจะลองซ่อมตัวที่เสียโดยการเปลี่ยนตัวเก็บประจุถ้าซื้อมาเปลี่ยนเองราคาไม่น่าจะเกิน 20 บาท

สัญญาอนุญาต: ซีซี: แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
License: CC: BY-NC-SA

Labels: ซ่อม, ไฟเลี้ยว, ไฟฉุกเฉิน, รถยนต์, เปลี่ยน, รีเลย์, repair, turn light, car, relay, replacement, tfr